การเลือกซื้อสว่านให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า

1.1 สว่านทั่วไป เป็นสว่านมีกำลังวัตต์ไม่สูงมาก ขนาดกะทัดรัด จับถนัดมือ น้ำหนักเบา มีระบบควบคุมแรงบิดและรอบหมุน สามารถปรับลักษณะในการหมุน ใช้กับงานเจาะไม้เป็นหลัก เจาะพลาสติก เจาะเหล็กแบบบาง  ยิงฝ้า พื้นผิวเฟอร์นิเจอร์  ขันน็อต ขันสกรู  งานซ่อมแซมทั่วไปได้ มีกำลังวัตต์ตั้งแต่ 550 วัตต์ขึ้นไป  สามารถหาซื้อได้ง่ายและราคาไม่แพง หัวจับดอกสว่านเป็นแบบธรรมดา

1.2 สว่านไขควง เป็นสว่านที่ช่วยในการปรับปรุงซ่อมแซมอุปกรณ์หรือวัสดุที่ชำรุดเสียหาย จะมีระบบควบคุมแรงบิดและรอบหมุน สามารถปรับลักษณะในการหมุนได้ เพื่อให้เหมาะกับการไขสกรู และคลายสกรู เจาะรูผนังไม้ เหล็ก สเตนเลสชนิดบาง พื้นผิวเฟอร์นิเจอร์  ยึดน็อตรถ งาน DIY ทำกรอบรูป เป็นต้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นประเภทสว่านไร้สาย  มีกำลังการใช้งานประมาณ 18-20 โวลต์  ลักษณะหัวจับดอกสว่านเป็นแบบธรรมดา

1.3 สว่านกระแทก ลักษณะคล้ายสว่านทั่วไป แต่มีกำลังวัตต์สูงกว่าสว่านทั่วไปเป็นสว่าน 2 ระบบ คือระบบเจาและระบบกระแทกทั่วไป ระบบกระแทกจะถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถเจาะวัสดุได้หลากหลาย  โดยนอกเหนือจากไม้และเหล็ก คือสามารถเจาะปูนฉาบ ปูนคอนกรีตได้  มีกำลังวัตต์ตั้งแต่ 700 วัตต์ ขึ้นไป  ลักษณะหัวจับดอกสว่านเป็นแบบธรรมดา

1.4 สว่านโรตารี่ เป็นสว่าน 3 ระบบที่มีระบบเจาะ ระบบกระแทก และระบบสกัด ซึ่งระบบสกัดที่เพิ่มเข้ามาช่วยในงานสกัดหน้าปูนต่างๆ เหมาะกับงานเจาะผนัง เจาะเหล็ก เจาะปูนโดยเฉพาะ เน้นงานที่ใช้แรงกดเยอะ ช่วยเบาแรงในการทำงานได้ ขันน็อตทั่วไปก็ทำได้เช่นกัน เพราะมีหัวสว่านแบบใช้จำปาจับดอกสว่านขนาดเล็กได้เหมือนสว่านทั่วไป กำลังวัตต์จะมีมากกว่าสว่านทั่วไป ตั้งแต่ 800 วัตต์ขึ้นไป  มีขนาดค่อนข้างใหญ่  น้ำหนักจะมากกว่าสว่านชนิดอื่นใช้เหมาะกับการใช้งานสองมือ  หัวจับดอกสว่านเป็นแบบธรรมดาและมีหัวเปลี่ยนใช้งานหัวโรตารี่ได้