ดอกสว่าน เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในเครื่องมือช่างที่ต้องมี ใช้ทำหน้าที่กัดเจาะเนื้อวัสดุต่าง ๆ ออกมาเป็นรู เพื่อที่เราจะได้ใช้รูในการจับยึด หรือ ตอกตะปู หรือ ใส่พุก เพื่อขันน็อตหรือสกรู ยึดน็อตได้สะดวก มีหลายแบบให้เลือกใช้มากมายหลายขนาด พัฒนาตามวัตถุประสงค์ของงาน หรือวัสดุที่ต้องการเจาะรู ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็ก ปูน หรืองานคอนกรีต เรามาทำความรู้จักกับ ดอกสว่าน ว่ามีกี่แบบ และใช้งานอย่างไรบ้าง
- ความยาวร่องคลายเศษ เป็นส่วนของดอกสว่าน สำหรับคลายเศษวัสดุที่ทำการตัดออกมาตามร่องของเศษดอกสว่าน ยิ่งดอกสว่านมีขนาดของร่องคลายเศษใหญ่แค่ไหน จะเพิ่มประสิทธิภาพคมตัดได้มากขึ้น
- ความยาวดอกสว่าน วัดจากขอบดอกสว่านด้านนอกไปจนถึงขอบดอกสว่านด้านนอกอีกด้านหนึ่ง
- คมตัด คือ ส่วนที่มีความคม 2 ด้าม ใช้เจาะวัสดุ ทำงานเป็นเกลียวหมุนข้าง-ออกได้ตามการปรับสว่าน และดอกสว่านที่มีความคม 2 ด้าน
- มุมจิก มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม ที่ทำมุมให้มีความแหลม โดยส่วนที่มีความแหลมจะจิกเข้ากับวัสดุ และทำการหมุนเป็นเกลียว มุมจิกของดอกสว่านแต่ละประเภท จะมีมุมที่ต่างกัน
- ก้านดอกสว่าน คือ ส่วนที่ยืดกับหัวสว่าน ให้แข็งแรง มั่นคง ก้านดอกสว่านมีรูปทรงแตกต่างกันไป แต่ส่วนมากได้แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ
- ก้านตรง เป็นดอกสว่านที่มีขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 16 มิลลิเมตร
- ก้านเรียว มีดอกสว่านตั้งแต่ขนาดเล็ก จนถึง ขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 52 มิลลิเมตร
- เส้นผ่านศูนย์กลางของดอกสว่าน เป็นส่วนที่บอกถึงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของดอกสว่าน
- การเคลือบดอกสว่าน ดอกสว่านที่ต้องการความแข็งแรง ประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น จำเป็นต้องมีการเคลือบปลายดอกสว่านด้วย
โดยทั่วไป เราสามารถแยกประเภทตามลักษณะ การนำไปใช้งานอย่างง่าย ๆ ได้ ดังนี้
ดอกสว่าน เจาะไม้
ลักษณะปลายดอก คล้ายหางปลา ใช้สำหรับเจาะไม้ที่มีขนาดไม่กว้างนัก ขนาดที่นิยมใช้กันทั่วไป คือ ขนาด 5, 6, 8 หรือ 10 มิลลิเมตร ใช้เจาะรู เพื่อใส่บานพับเหล็กบนประตู-หน้าต่าง หรือเจาะรู เพื่อร้อยสายไฟต่าง ๆ หรือตอกหมุน เพื่อการจับยึดไม้เข้าด้วยกัน
ดอกสว่านเจาะเหล็ก
ลักษณะของดอกสว่านเป็นร่องเกลียวตัด ปลายดอกแหลม ใช้สำหรับจิกนำศูนย์ เจาะได้ตรง เพราะดอกสว่านิทำจากเหล็กกล้าไฮสปีด จึงสามารถนำมาใช้เจาะชิ้นงานหลากหลาย โดยดอกสว่านเจาะเหล็ก จะแบ่งตามชนิด ได้แก่
- ดอกสว่านชุบดำ เป็นเเบบที่ใช้งานทั่วไป เจาะไม้ เจาะเหล็กได้ เเต่จะค่อยไม่เเข็งเเรง เเตกหักง่าย หากเจาะวัสดุที่มีความเเข็งมาก
- ดอกสว่านไฮสปีด ใช้งานเจาะทั่วไป เจาะเหล็ก เจาะไม้ วัสดุเนื้อเเข็ง เป็นดอกที่มีความทนทานมากกว่าดอกสว่านเเบบชุบดำ
- ดอกสว่านไฮสปีดเคลือบไทเทเนียม จะเป็นดอกสีทอง ใช้งานได้ดีกว่าดอกไฮสปีดทั่วไป ทนความร้อนได้ดีกว่า อายุการใช้งานนานกว่า
- ดอกสว่านเจาะสแตนเลส มีความเที่ยงตรง และความคงทนสูง ตัวดอกสว่านเคลือบ COBALT เพื่อทนการเสียดสีและความร้อนทำให้อายุการใช้งานยาวนาน ซึ่งดอกสว่านไฮสปีดเเบบธรรมดาจะเจาะสเเตนเลสไม่เข้า
- ดอกสว่านทรงเจดีย์ ใช้เจาะไม้ เจาะเหล็กหนาได้ตามขนาดความสูงของชั้นดอกเจาะ ใช้เจาะทำฉาก ทำชั้นวาง เจาะพลาสติก อะลูมิเนียม ชุบไทเทเทียมเพิ่มอายุการใช้งาน
- ดอกโฮลซอว์เจาะเหล็ก เป็นดอกสว่านที่ใช้เจาะรูขนาดใหญ่กว่าดอกสว่านธรรมดา ลักษณะคล้ายกับดอกโฮลซอล์เจาะไม้ ใช้ได้กับสว่านเเท่นเเละสว่านไฟฟ้า
ดอกสว่านเจาะคอนกรีต
ลักษณะของดอกสว่าน เป็นเกลียวบิด ส่วนปลายดอกเป็นเหล็กกล้าคาร์ไบด์ ปลายดอกออกแบบ รูปทรงเจดีย์ เพื่อลดการหนีศูนย์ เหมาะสำหรับการเจาะปูน คอนกรีต ซีเมนต์บล็อก หรืออิฐมอญ แบ่งตามชนิด ดังนี้
- ดอกสว่านเจาะคอนกรีตก้านกลม เหมาะกับการเจาะรูสำหรับติดตั้งตัวยึดทั่วไป เช่น พุกเหล็ก พุกพลาสติก เป็นดอกสว่านที่ใช้กับสว่านกระเเทกได้ทุกรุ่น หัวดอกเป็นทังสเตนคาร์ไบด์คุณภาพดี มีคมตัดทั้งสองด้าน
- ดอกสว่านโรตารี่ ดอกสว่านนี้สามารถเจาะคอนกรีตได้อย่างทะลุทะลวง คอนกรีตเสริมเหล็ก แผ่นตระแกรงเหล็ก หรือหินที่แข็งแกร่ง หัว 4 เขี้ยวผลิตจาก คาร์ไบร์เกรดสูงสุด ทำให้การเจาะแม่นยำง่ายดาย ใช้ได้ยาวนาน และเจาะเป็นวงกลมได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
- ดอกสว่านโฮลซอว์เจาะคอนกรีต มีลักษณะเป็นทรงกระบอก มีเเกนสำหรับเจาะนำศูนย์ ใช้สำหรับเจาะปูน และคอนกรีต เพื่อให้ท่อหรือวัสดุต่าง ๆ ลอดผ่านรูไปได้ใช้ร่วมกับสว่านโรตารี่
การเลือกประเภทของดอกสว่านในงานเจาะรู มีผลต่อการอุปกรณ์ที่ใช้ทำงาน ทั้งขนาดของอุปกรณ์ ความลึกของรูที่ต้องการเจาะ วัสดุที่จะถูกนำมาเจาะรู รวมถึงอายุการใช้งาน เพราะดอกสว่าน ทำมาจากวัสดุแข็งหลากหลายชนิด ซึ่งมีผลต่อความทนทาน จึงควรจะเลือกดอกสว่าน ให้ถูกต้องตามประเภทการใช้งานด้วย
คำแนะนำการใช้งานทั่วไปที่ถูกต้อง
- ก่อนการเจาะรูทุกครั้ง ตรวจปลายดอกสว่านทุกครั้ง ถ้าไม่คม ต้องทำการลับดอกสว่านใหม่ เพราะถ้ายังฝืนเจาะต่อไป อาจทำให้ดอกสว่านร้อน และหักได้ หากต้องการเจาะชิ้นงาน ที่ต้องการความแม่นยำสูง ควรใช้เหล็กนำศูนย์ ตอกนำเสียก่อนตรงตำแหน่งที่จะเจาะรู ตอกให้เป็นรอยบุ๋มเล็ก ๆ เพื่อช่วยให้ปลายดอกสว่าน สามารถกินเนื้องานตรงกับจุดที่เราต้องการ ไม่กระโดดหนีศูนย์ออกไป และต้องยึดชิ้นงานให้ติดแน่นอยู่กับที่ด้วยแท่นยึดด้วย
- ควรขันดอกสว่านให้แน่นทุกครั้ง ด้วยกุญแจขันหัวสว่าน ก่อนการใช้งาน เพราะถ้าดอกสว่านหลวม อาจทำให้หลุดกระเด็นออกมา หรือเจาะไม่เข้าได้ และควรเปิดเช็คสวิตช์ให้สว่านหมุน เพื่อดูว่า ปลายดอกสว่านหมุนแกว่งหรือไม่ ถ้าดอกสว่านแกว่งไปมา แสดงว่าเสียศูนย์ ให้คลายดอกสว่านออก แล้วขันเข้าไปใหม่
- ควรสวมแว่นตานิรภัย เพื่อป้องกันผงฝุ่นที่เกิดจากการเจาะ รวมทั้งเศษวัสดุต่าง ๆ จากชิ้นงาน ซึ่งอาจกระเด็นมาเข้าตาได้ และควรแต่งกายให้รัดกุ และเมื่อเลิกใช้งานแล้ว ให้ถอดดอกสว่านออกมา เพื่อทำความสะอาด ก่อนนำไปเก็บเข้าที่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.kachathailand.com